ชีวิตมหาลัยใครๆก็คิดถึง (จริงไหม?)

ผมมีโอกาสได้ฟังวิทยุ แล้วมีการพูดถึงชีวิตมหาลัยก็เลยอยากเขียนเรื่องของช่วงชีวิตที่ผ่านมาใน รั้วมหาลัยว่าชีวิตมันสนุกจริงไหม? 4 ปีในรั้วมหาลัยทำอะไรมาบ้าง?



ชีวิตมหาลัยใครๆก็คิดถึง


นักศึกษาปี 1 – ผมเป็นคนที่โชคดีครับมีโอกาสได้เสียเวลาไปเรียนปี 1 ถึง 2 ครั้ง (ซิว!) หลังจากยื่นคะแนนเอ็นสะท้าน (Entrance) ไม่นานนัก ผมได้มีโอกาสเลือกมหาลัยใกล้บ้าน ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจเลือกเท่าไหร่ อยากจะเข้ามาเรียนในเมืองกรุงฯ อย่างใครๆเขานั้นล่ะครับ แต่ด้วยสถานะการและอะไรหลายๆ อย่างทำให้มันไม่มีทางเลือก เลือกไปแล้วดันฟลุ๊กได้จากคะแนนห่วยๆที่มีอยู่ เอ็นติดซะงั้น! (สอบสอบไปนั่งดูสาวอยู่) เข้าเรียนในสาขาที่ไม่ชอบเท่าไหร่ เกี่ยวกับจัดการพวกอุตสาหกรรมครับ ซึ่งไม่ค่อยเก่งวิทย์ฯ เท่าไหร่ เจอเข้าไป โง่ขึ้นทันตา ไปนั่งเรียนบ้าง ไม่เรียนบ้าง ทำงานเสริมไปด้วยเพราะเงินไม่ค่อยมี ทำงานร้านสะดวกซื้อ (7-11) จนไม่ค่อยได้สนใจเรียนซะเท่าไหร่ ปัญหามากมาย เป็นเด็กหอใน มีเพื่อนร่วมห้องที่อย่างแนว..แต่อยู่กันได้ไม่นานก็มาเสียชีวิตเพราะ อุบัติเหตุ ทำให้ผมเป็นข่าวร่วมดังไปด้วย (ห้อง 5318) ไม่มีใครกล้ามานอนด้วยตั้งเป็นเดือนๆ ไปมาๆ เรียนไม่ได้ครับ ติด E ซะตั้งแต่แรกเลยถอยกลับไปยื่นคะแนนอีกครั้ง ใช้คะแนนเดิม เอ็นฯที่เดิม แต่เปลี่ยนสาขาใหม่ เสียเวลาไป 1 ปีทำให้ชีวิตย่ำแย่ไปเยอะ.. เข้าเรียนสาขาใหม่ที่เดิม คราวนี้เกี่ยวกับคอมฯตามที่ชอบล่ะ โดยทั่วไปไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เริ่มปี 1 ก็ถูกๆไถๆ ผ่านปีหนึ่งไปได้..แบบงง?

นักศึกษาปี 2 – ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา แต่ตั้งใจเรียนขึ้น มีฟงมีแฟนกะเค๊าด้วย ทำโน้นนี้ตามประสา เวลาส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับแฟนและก็ไปเรียน เริ่มสนิทกับเพื่อนๆมากขึ้น ไปไหนมาไหนกันบ่อยขึ้นกับเพื่อนๆ เริ่มแตกกรุ๊ป แตกกลุ่มเป็นก้อนๆ แยกกันอยู่เป็นพวกๆ เริ่มบ้าพลังเพราะมีรุ่นน้องแล้ว เริ่มแจกลายเซ็น อยากให้รุ่นน้องรู้จัก อยากม่อน้องๆ เริ่มอ่านหนังสือดึกขึ้น ทำงานที่อาจารย์สอนขึ้น เริ่มบ้า Internet มีความสนใจในคอมฯ อย่างสูงไม่แพ้สนใจเพศตรงข้ามกันเลยทีเดียว หลักๆแล้วเที่ยวเยอะมากเลย กิจกรรมเยอะ สนุกดี และมีเพื่อนบางคนเริ่มถอยไปหาที่อื่นๆ เนื่องจากเรียนไม่ได้ เรียนไม่ไหวกันบ้าง หายไปหลายคนเช่นกัน..ตัวผมก็ผ่านไปด้วยดี

นักศึกษาปี 3 – เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรู้สึกอยากจบล่ะ เรียนเยอะ หนักหัวชิบ.. แต่ก็ทำงานออกมาได้ดี ต้องเรียน present งานโน้นนี้ มีรายงานหนาๆ ต้องสร้างภาพลักษณ์อันน่าดูดี แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ซะที หลักๆแล้วรู้สึกชีวิตสนุกไปกับการนอนดูหนัง นอนดูการตูน เริ่มบ้าทำเว็บ เริ่มหมกอยู่หน้าคอมฯมากกว่าเดิม บ้าโหลดหนัง บ้า Bittorent ไปกันใหญ๋เที่ยวไปด้วย บรรเทิงถึงใจ มีแนวมากขึ้น โดดเรียนอย่างมีหลักการไม่โดดไร้สาระแบบปีก่อนๆ รับผิดชอบพอตัว บรรยายไม่ได้มากแต่บอกได้คำเดียวว่าล้น!!

นักศึกษาปี 4 – มีวิชาเรียนไม่ค่อยเยอะเหมือนจะว่าง แต่ไม่เลยทุกอย่างผ่านเร็วมาก รู้สึกเหมือนยังไม่ทำอะไรหลายๆอย่างเสียดาย และเสียดาย งานอาจารย์เยอะ ทำสัมนา ทำโปรเจ็ค มึน.. อึน.. ไปตามๆกัน มั่วมาก เครียด ไม่ได้นอน เป็นคืนๆ เตรียมงานพรีเซ็น พอจบงานก็หลับเป็นตาย หลังจากนั้นก็ลั้น..ลา..อย่างเคย วนเวียนเป็นวงจรชีวิต มากมาย ทำโน้นทำนี้เหมือนจะรวดเร็ว อีกใจก็อยากจบจากปี 4 แล้ว อยากทำงานข้างนอก ด้วยความสบายที่มีวิชาเรียนน้อย ตื่นสายๆ แต่งานเยอะๆ ก็สมน้ำสมเนื้อ ทุลักทุเล จนจบจนได้..

ชีวิตมหาลัยงของผม

หลังจบ – คิดถึงเพื่อนๆทุกคน คิดถึงมากๆ อยากกลับไปเวลานั้น อยากกลับไปตั้งใจเรียน อยากขยันกว่าที่เป็น อยากศึกษาหาความรู้ อยากมีความสบายอย่างที่เคยมี อยากนอนตื่นสาย อยากโดดเรียนไม่เหมือนทำงานโดดไม่ได้ อยากลั้นล่าเที่ยวกลางคืนแบบชิวๆ เหมือนเดิม อยากเป็นเด็กเหมือนเดิม จะได้ไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องรับผิดชอบเยอะ ไม่ต้องคิดมาก เมื่อทำผิดก็แก้ใหม่ได้ มีส่งงานใหม่ได้ แต่ก็ได้แค่.. อยาก อยาก และ อยาก..

สำหรับเพื่อนเวลาเจอกัน ณ ปัจจุบันมีเรื่องราวให้พูดให้คุยโม้ได้กันเป็นคืนๆก็ยังไม่จบเลย มีหลายๆเรื่องที่คุยกับเพื่อนๆ ที่สนิทแล้วถูกใจมันจะยาวววววไปเลย..

เอาล่ะ..ผมมีความเชื่อว่าหลายคนรู้สึกดีกับการได้ใช้ชีวิตในมหาลัย ซึ่งผมขอเล่าพอมองเห็นภาพว่ามันเป็นช่วงที่มีความสุข สนุก และเป็นช่วงแห่งการเรียนรู้ที่น่าจดจำครับ (สำหรับผมนะ) อาจจะมีใครหลายคนคิดถึงมันเหมือนผม แต่หลายๆคนอาจจะไม่ชอบชีวิตมหาลัยก็ได้จริงไหม? แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คิดดูแล้วว่าผมผ่านมันมาได้ แม้ว่ายิ่งนานๆไปทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมหาลัยมันธรรมดาขึ้นเรื่อย แน่นอน!! นั้นเป็นต้นเหตุที่ให้ผมมีคำตอบสำหรับเรื่องว่า..ผมแก่ขึ้นมาก.. และผมยังค้นหาสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จ และแน่นอนวันไหนที่ผมสำเร็จแล้วผมมาอ่านบทความเก่าๆ ที่ผมเขียนขึ้นมาผมก็นึกหัวเราะและตลกกับเรื่องราวที่ผ่านมาไม่มากก็น้อยเลย ทีเดียว สิ่งที่เป็นคำพูดที่มักจะมีใครต่อใครพูดกันเสมอๆว่า..”ทำวันนี้ให้ที่สุด”.. ยังคงใช้ได้เสมอครับ เพราะเราอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่ามันจะหนักแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหน เราก็ต้องทำไป.. นี้เหละครับชีวิต ผมเองมีความฝันหลายๆ อยากทำ แต่ยังทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ผมไม่รู้หรอกครับว่าวันไหน? ผมจะทำมันได้สำเร็จ แต่ผมยังไม่ความเชื่อ เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และเชื่อว่าซักวันผมจะทำมันได้ ผมจะได้รับมัน และผมจะทำสำเร็จครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ผ่านมาร่วมคิดถึงความหลังเก่าๆ ตอนยังวัยรุ่น ตอนเป็นเด็กมหาลัยทุกคนครับ.. แต่อย่าลืมนะว่าชีวิตของคุณยังต้องเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยไป.. อย่าเพิ่งถอยหลังนะ เพราะเมื่อถอยก็เท่ากับว่าคุณยอมแพ้.. ก้าวต่อไปครับแล้วมาเล่าความสำเร็จให้ผมฟังบ้างนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การยืนยันแบบเสียค่าใช้จ่ายบน Facebook และ Instagram ส่งผลต่อการตลาดออนไลน์!

เบื่องานหรือเบื่อคนเอาจริงๆ

Demand-side platform (DSP) คืออะไร