บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2015

รู้สึกท้อแท้บ่อยๆ ! เฮ้ย.. ลอง 5 วิธีนี้ดู..

1. มองไปรอบๆ โฟกัสไปในสิ่งที่ดี คนที่เก่ง และชีวิตที่เราต้องการ ท้อบ่อย จะถอดใจหลายรอบ ถ้ามันสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ก็แค่ยอมรับมันไปครับ ..เป็นอะไรที่ปกติมาก ไม่ต้องกัวล เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ดูด้อยกว่าคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ผมเข้าใจว่าการต่อสู้กับความรู้สึกนี้มันหิน ถือว่าเป็นด่านคัดคนเลยก็ว่าได้ แต่ขออย่างเดียว คุณอย่ายอมแพ้ .. ให้ดูคนที่มีชีวิตในแบบที่เราต้องการ ดูผลลัพธ์ที่เขามี แล้วเก็บไว้เป็นแรงผลักดัน ..เราต้องได้อย่างเขา! และเราต้องดียิ่งกว่าเขา! 2. ต้องมีแนวคิดแบบนักพัฒนา เวลามองอะไร ให้มองหลายๆ ทาง อย่าตัดสินกันเพียงคำตอบสองทางเลือก ความเป็นไปได้มันมีมากกว่านั้น อย่าไปจำกัดตัวเองไว้กับตัวเลือกห่วยๆ In order to achieve our goals, we often have to get out of our own way. ชีวิตมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า "เราเกิดมาแล้วได้อะไร" แต่เป็น "เราเกิดมาแล้วอยากมีอะไร" ..ทุกอย่างสร้างขึ้นได้ทั้งนั้นครับ 3. กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เคล็ดลับไหมฟ้าที่คนสำเร็จทั่วโลกใช้กัน คือ "การลงเวลาให้ชัดเจน" ทำอะไร ? ที่ไหน ? เมื่อไร? กับใคร ? และเพื่ออะไร

6 สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่ามาถูกทาง จริงๆ แล้วคุณน่ะดูดีและฉลาดกว่าที่คิด

1. คุณเป็นคนขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็นและชอบตั้งคำถามกับ(แทบจะ)ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา คนกลุ่มนี้จะสามารถปรับตัวเข้าหาความเปลี่ยนแปลงได้เร็วที่สุด อาจจะเป็นเพราะตัวเขาเองไม่ได้ยึดติดกับแบบแผน และพร้อมที่จะเผชิญหน้าความแปลกใหม่ของคำถามที่เกิดขึ้น นั่นทำให้เขาพร้อมที่จะลื่นไหลไปตามกระแสน้ำที่พัดผ่านเข้ามา จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหยิบจับอะไรขึ้นมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับคนทั่ว ไป 2. คุณมีเป้าหมาย แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่คุณก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตเป้าหมายที่วางไว้ ความสนุก / ความท้าทาย / เอาชนะตัวเอง ..คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการลงมือทำตามเป้าหมาย และก็ดันชอบซะด้วยซิ นั่นคือสิ่งที่คุณจะเห็นได้ในคนกลุ่มนี้ อีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ การเตรียมพร้อม คนกลุ่มนี้จะมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับการตัดสินใจเสมอ เขาจึงรู้ดีว่า "ตัวเราเองต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ" 3. คุณหวงแหนเวลาที่มี จะไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่เฉยๆ โดยไม่มีอะไรทำ และบางคนก็ใส่ใจถึงขนาดว่าในช่วงเวลาเดียวต้องทำได้มากกว่าหนึ่งสิ่ง มาร์กดาวไว้สำหรับข้อนี้! "เวลามีค่ายิ่งกว่าทอง เพราะเขารู้ดีว่าจะหา

5 นิสัยทางการเงิน ถ้าอยากรวยก็ลองทำดู!

1. หยุดมือเติบ หลายคนใช้จ่ายเกินตัว บางคนรู้ตัว หลายคนไม่รู้ บางคนไม่ค่อยใช้เงินแต่พอมีโอกาสได้ใช้ที เรียกว่าซื้อเผื่อยันปีหน้าเลยหรือไง คือจัดเต็มมาก ชนิดที่ว่าอ้าปากค้างกันไปตามๆ กัน สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าเราสามารถเห็นชัดเจนมากในคนมือเติบ คือ ความอยาก.. อยากได้อันนี้อ่ะ อยากกินร้านนั้นอ่ะ อยากไปเที่ยวที่นี้อ่ะ ..เต็มไปหมด คิวจ่ายเงินยาวเป็นหางว่าว ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะครับ ทีนี้ผมเลยคิดว่าเราทุกคนควรจะมีบัญชีเงินใช้เล่นติดตัวกันเอาไว้ คือกันเงินส่วนหนึ่งจากรายได้เข้าบัญชีนี้ เอาไว้ซื้ออะไรก็ได้ที่อยากซื้อ "มันจะได้ไม่รู้สึกขาดแคลน" แต่ต้องมีวินัยกันหน่อยนะครับ! 2. เก็บเงินเพิ่ม ทุกวันนี้เราออมเงินกันน้อยมากครับ บางคนไม่มีเงินออมเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งบางอันก็เข้าใจได้ แต่หลายอันยอมรับไม่ได้จริงๆ "การออมเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง" ..ยังคงเป็นเรื่องจริงครับ การออมส่งผลดีต่อชีวิตเราหลายอย่างครับ หนึ่งในนั้นคือการสร้างวินัย ..ออมน้อย ออมมากไม่สำคัญ ใครออมเร็วกว่าชนะ ..อย่าได้ดูถูกพลังของดอกเบี้ยทบต้นเชียว 3. หาช่องทางลงทุน อนาคต

10 เรื่องต้องหยุด!.. หากคุณกำลังมองหาความสุขให้ชีวิต

1. คาดหวังกับทุกเรื่อง แถมคาดหวังมากซะด้วยซิ 2. เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอ แถมไม่เคยคิดจะพัฒนาตัวเองเพิ่มเลยซะด้วยซิ 3. เป็นพวกคิดลบ มีทัศนคติคับแคบ ตัดสินคนอื่นโดยไม่ดูเหตุผล 4. ชอบเก็บเอาไปคิด มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ แค้นใคร ก็เคืองไปจนวันตาย 5. โลกทั้งใบหมุนรอบตัวเราคนเดียว คนอื่นไม่สนใจ เราต้องมาเป็นอันดับแรก 6. ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่เป็น และไม่ค่อยจะสนใจความรู้สึกคนอื่นด้วย 7. กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นมากเกินไป 8. ชอบทำให้ตัวเองดูเหนือ โดยการกดคนอื่นให้ต่ำลง 9. โทษคนนู้นที คนนี้ที ตัวเองไม่เคยผิดเลย 10. รีบเร่งตลอดเวลา ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สนใจเฉพาะเรื่องของตัวเอง Cr. : lifehack and Wealth Creation

10 ความจริง ที่มหาวิทยาลัยไม่เคยบอกคุณเมื่อตอนเรียนจบ

1. โลกทัศน์ที่คิดว่าดีแล้ว แท้จริงแล้วมันไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะโลกมันกว้างกว่าที่เราคิด 2. ความคิดของเราไม่ได้ถูกต้องเสมอไป -- จงเรียนรู้ที่จะรับฟังคนอื่นด้วย 3. เราหยุดเรียนรู้ไม่ได้ ถ้าหยุดคือถอยหลังทันที -- มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด คือ มหาลัยชีวิต 4. ในองค์กรใหญ่ๆ แทบจะทุกหน้าที่สามารถแทนที่ได้หมด เพราะฉะนั้นอย่าหลงกลคิดว่าเราสำคัญสุด ถ้าคุณไม่พัฒนาตัวเองให้คู่ควร ไม่นานก็โดนเตะ! 5. เราไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งๆ นั้นจริงๆ หรอก -- จงเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง 6. ความสัมพันธ์เริ่มจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการวางตัวสำคัญ! 7. การตัดสินใจของคุณส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย -- คิดอะไรทำอะไร ต้องรอบคอบ และควรมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วด้วย 8. วิชาการหาเงินไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด -- เราควรเริ่มต้นเก็บเงินให้เร็วที่สุด 9. เราไม่ได้มีเวลามากพอที่จะทำทุกอย่างที่เราอยากทำได้ -- เพราะฉะนั้นต้องเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน 10. ชีวิตจริงไม่ง่าย -- แต่ถ้าเอาจริง มันก็ไม่ได้ยากเกินไป Source : lifehack

5 แนวคิดสร้างชีวิตของมหาเศรษฐีจีน Jack Ma - Alibaba

1. คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและหาประสบการณ์ชีวิต "เราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่เป็นการใช้ชีวิตต่างหากล่ะ" เป็นสิ่งที่หม่าย้ำเสมอเวลาถูกสัมภาษณ์ Life is for experiencing the world and helping out other people เราเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ไม่ใช่มาเพื่อแค่ทำงาน' 2. ทัศนคติ สำคัญที่สุด! ทุกคนเคยทำผิดพลาด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับมือกับความผิดพลาดนั้นได้ เพราะ ทัศนคติของเราไม่มีขนาดเท่ากัน หม่าบอกว่า "ทัศนคติของคุณนั้นสำคัญกว่าความสามารถ" และ "การตัดสินใจของคุณนั้นก็สำคัญกว่าความสามารถ" 3. อย่าสร้างศัตรู โลกนี้จำไม่ได้หรอกว่าคุณพูดอะไรไป แต่จะไม่ลืมสิ่งที่คุณทำ หม่าบอกว่า "คู่แข่งไม่ใช่ศัตรู แต่เค้าเป็นเพื่อนของเรา เราสามารถเรียนรู้อะไรบางอย่างจากเพื่อนคนนี้ได้ มิหนำซ้ำยังสามารถท้าทายซึ่งกันและกันเพื่อเพิ่มขีดจำกัดศักยภาพที่มีด้วย" ความเกลียดจะทำให้คุณพ่ายแพ้! 4. จะรวมคนเก่งไว้ด้วยกัน ต้องมีเป้าหมายที่ตรงกัน คุณไม่สามารถที่จะทำให้คนทุกคนคิดเหมือนกันได้หรอก แต่คุณสามารถทำให้ทุกคนก้าวไปทางเดียวกันได้ด้วยเป้าหมายเดียวก

เทคนิคการออมเงินของคนเยอรมัน

คุณรู้มั้ยคนเยอรมันสอนลูกตัวเองให้เก็บเงินแบบไหนกัน ? เพื่อนรุ่นพี่ผมมีกิ๊กเป็นชายชาวเยอรมัน ก่อนหน้ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนไอเดียเรื่องการออมเงินกัน ผมตกใจมากเพราะ "คนเยอรมันส่วนใหญ่ออมเงินถึง 70% ของรายได้" ใช่! คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ 70% จริงๆ "เฮ้ยทำได้ไงอ่ะ อีกแค่ 30% มันจะไปพอใช้ได้ไง" ผมเองก็เกิดคำถามแบบคุณขึ้นในใจนั่นแหละ ในมุมมองของคุณ คำตอบ ของคำถามนี้มีหน้าตาเป็นแบบไหนครับ เค้าก็หาเพิ่มกันไง! ..ผมยิ่งอึ้ง ง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ คนเยอรมันบอกว่า ถ้า 30% ที่เหลือจากรายได้มันไม่พอใช้ ตีความง่ายๆ เลยว่า ถ้าเพิ่มรายได้ไม่ได้ ก็ถึงเวลาที่ต้องทำงานเสริม ไม่งั้นไม่พอกิน นอกเหนือจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าจำเป็นต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน มันเยี่ยมมากเลยนะ เพราะบางคนก็ไม่ถนัดหรอกเรื่องการออม ยิ่งอย่างผมอ่ะตัวใช้เงินเลย ให้หาเงินยังสนุกกว่า ถึงแม้วินัยการออมจะสำคัญ แต่เรื่องจริตของเรานั้นสำคัญกว่า ถ้าไม่สังเกตตัวเอง มันก็เหมือนเราว่ายทวนน้ำ ...เอ๊! ทำไมไม่รวยสักทีว้าา เฮ้ย! ผมว่าเค้าสอนดีอ่ะ หักดิบแบบนี้ซิถึงได้ผล อย่างนี้สิถึงน่าเอาแบบอย

7 วิธี ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าเพื่อนในรุ่น!

1. ค้นหาความชอบ ความถนัด ของตัวเองให้เร็วที่สุด 2, สนุกที่จะเรียนรู้ใน first-hand experience ทุกครั้ง ถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดไปบ้างก็ตาม 3. รู้จักคนเยอะ มีเครือข่าย network ที่แข็งแรง โดยเฉพาะกับในสายงานที่สนใจและเกี่ยวข้อง 4. มีนิยามความสุขที่ชัดเจน รู้วิธีที่จะทำให้ชีวิตมีสีสันได้โดยไม่ต้องพึ่งอะไรมากมาย 5. ง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะมองที่ผลลัพธ์เป็นหลัก 6. ความฝัน-เป้าหมาย สำคัญ!.. เป็นอันดับหนึ่ง 7. อุปสรรค/ปัญหา เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว "อะไรที่เราได้เรียนรู้" สำคัญกว่า "อะไรที่ทำให้เราท้อแท้" Cr. : Wealth Creation

ทุกคนต่างมุ่งหาความสุข (ลูกโป่ง) ของตัวเอง

ในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับลูกโป่งคนละใบ และถูกขอให้เขียนชื่อตัวเองลงบนลูกโป่ง แล้วเอาไปใส่ไว้ในอีกห้องจนเต็ม จากนั้นพิธีกรได้บอกให้ผู้เข้าร่วม สัมมนา เข้าไปในห้องนั้นแล้วหาลูกโป่งที่มีชื่อตัวเองนำกลับออกมา ภายใน 5 นาที ห้องนั้นก็เหมือนเกิดจลาจล ทุกคนต่างรีบหาลูกโป่งของตัวเอง เหยียบลูกโป่งคนอื่น ทั้งดึง ทั้งดัน กระทบกระทั่ง ล้มลุกคลุกคลาน สุดท้ายไม่มีใครหาลูกโป่งที่มีชื่อตัวเองอยู่เจอเลย พิธีกรประกาศให้หยุด แล้วเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้ง คราวนี้เขาประกาศให้ทุกคนค่อยๆ หยิบลูกโป่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วประกาศเรียกหาเจ้าของชื่อมารับลูกโป่งไป ภายใน 3 นาที ทุกคนได้ลูกโป่งที่มีชื่อของตัวเองครบทุกคน .................... พิธีกรสรุปให้ฟังว่า สังคมของเราเป็นอย่างนี้ ทุกคนต่างมุ่งหาความสุข (ลูกโป่ง) ของตัวเอง โดยไม่สนใจคนอื่น ไม่เอื้ออาทร ไม่แคร์แม้ต้องเหยียบย่ำความสุขของคนอื่น แต่เมื่อใดที่ทุกคนมอบความสุข (ลูกโป่ง) ให้กับเพื่อนร่วมสังคมก่อนทีละคน ทุกคนจะได้ความสุขเท่าๆ กัน ไม่ตกหล่นแม้แต่คนเดียว